ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ถือเป็นเวทีฟุตบอลลีกที่คนไทย และคนทั่วโลกให้ความสนใจมากเป็นอันดับ 1 ปัจจัยสำคัญก็มีด้วยกันหลายประการทั้งการโฆษณา การทำการตลาดของพรีเมียร์ลีก การเล่นฟุตบอลที่สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจ การทำข่าวในบ้านเราที่เน้นบอลอังกฤษเป็นหลัก พร้อมเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมายเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยเทใจกับบอลอังกฤษ เมื่อนึกถึงทีมดังในพรีเมียร์ลีกเรามักมีคำเรียกกันติดปากว่าบิ๊กโฟร์ ซึ่งหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้บิ๊กโฟร์ของอังกฤษจะประกอบไปด้วยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และเชลซี แต่ในเวลานี้ยังมีอีก 2 ทีมที่ถือว่าได้ลุ้นแชมป์เป็นประจำคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
พื้นที่ยูฟ่า กับบิ๊กโฟร์ในพรีเมียร์ลีก
เราจะขอว่ากันด้วยเรื่องราวเฉพาะทีมบิ๊กโฟร์ในพรีเมียร์ลีกที่จัดว่ามีแฟนบอลเยอะที่สุดในโลกรวมถึงแฟนบอลชาวไทยด้วยเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ล่าสุดของทั้ง 4 ทีมใหญ่ถึงความเป็นไปได้กับการไต่อันดับเพื่อเล่นฟุตบอบถ้วยยุโรปซีซั่นหน้า
เริ่มต้นกันที่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส แม้ว่าปีนี้จะเสริมทีมได้น่าสนใจจนรั้งอันดับที่ 2 และไม่น่าพลาดในการได้ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปในซีซั่นหน้าค่อนข้างแน่ ทว่าเรื่องน่าเสียดายก็คือเขายังไม่สามารถพาแมนฯ ยูฯ ไปถึงฝั่งฝันกับการกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ลีกคืนได้สักทีนั่นเอง
ต่อกันด้วยทัพ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยอดกุนซือแดนน้ำหอมที่ต้องบอกว่าช่วงหลายปีหลังฟอร์มอาร์เซน่อลตกลงไปเยอะขนาดแฟนๆ ต้องการความเปลี่ยนแปลงพร้อมชูป้ายไล่เวนเกอร์อยู่เนืองๆ รวมถึงผลงานในปีนี้ก็ไม่สู้ดีนักล่าสุดตกไปอยู่ถึงอันดับ 6 และโอกาสก็คงแค่ได้มีสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า ยูโรปาลีก ค่อนข้างแน่ในซีซั่นหน้า
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ภายใต้การกุมบังเหียนของ เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือสายบู๊ชาวเยอรมันที่ปีนี้ต้องบอกว่าฟอร์มเกมรุกจัดมากเพียงแต่ปัญหามันดันอยู่ที่เกมรับซึ่งยังคงเสียลูกง่ายๆ บ่อยครั้งจนทำให้อันดับของพวกเขารั้งที่ 3 ทว่าโอกาสได้ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้าก็ค่อนข้างสดใสไม่น้อยเหมือนกัน
ปิดท้ายด้วย “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี กับมันสมองของอันโตนิโอ คอนเต้ ยอดผู้จัดการชาวอิตาลีซึ่งพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้เมื่อปีก่อนทว่าในซีซั่นนี้ทีมของเขามีปัญหามากมายตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลทำให้ไม่ได้นักเตะตามสั่งรวมถึงฟอร์มก็ไม่ค่อยสู้ดีตกไปอยู่อันดับ 5 แต่โอกาสก็ยังเปิดว้างกับการได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้า